วิธีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับการค้าในประเทศจีน

 

คุณเฉินเซี่ยว (Chen Xiao) Business Manager จากบริษัท Joy Media และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม Pindoudou (Tiktok ประเทศจีน) ได้มาบรรยายหัวข้อ “วิธีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับการค้าในประเทศจีน” พร้อมด้วย ดร.วาเรศ รัตนวิสาลนนท์ อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือผู้อบรมหลักสูตร CBL รุ่น 1 ที่ให้เกียรติมาร่วมบรรยายพร้อมคุณ Chen และถอดความภาษาจีนให้ผู้เข้าอบรมหลักสูตร China Business Leader หรือ CBL รุ่น 2 ฟังเพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ณ สถาบันสร้างอนาคตไทย (FFIT)

 

Joy Media คือ หนึ่งในบริษัทผู้นำด้าน Multi-channel Network (MCN) อันดับ 1 ในประเทศจีน ซึ่งมีเครือข่ายของอินฟลูเอนเซอร์, KOC, และ KOL ที่อยู่ในสังกัดของบริษัทเป็นจำนวนมาก มี KOL เป็นจำนวนกว่า 100,000 คน มีศิลปินที่มีชื่อเสียงกว่า 5,000 คน รวมทั้งมีแฟนคลับและผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์ในสังกัดนับเป็นยอดรวมทั้งสิ้นกว่า 1,800,000,000 คน  กล่าวได้ว่า บริษัท Joy Media เป็นบริษัทด้าน MCN ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีลูกค้าหลักเป็นบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมาก เช่น Oppo, McDonald’s และหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งคุณเฉินเซี่ยวได้เผยถึงเคล็ดลับและเทคนิคการสร้างแบรนด์กับอินอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงทริคการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในการทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จ โดยมีพื้นหลังเป็นการเติบโตของบริษัท Joy Media

 

 

การสร้างแบรนด์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์

 

การสร้างแบรนด์ผ่านการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเชื่อมโยงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายหลัก และสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคอีกด้วย ซึ่งการสร้างแบรนด์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลยุทธ์ ดังนี้ 

 

กลยุทธ์ที่หนึ่ง เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ โดยเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีคุณลักษณะสอดคล้องกับภาพลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ เช่น เลือกใช้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความน่าเชื่อถือด้านความงาม สุขภาพ และฟิตเนส มาโปรโมทสินค้าด้านสุขภาพและความงาม เป็นต้น  อีกทั้ง ควรเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์หลากหลายระดับ ทั้งระดับท็อป(Mega-Influencers) และระดับรอง (Micro-Influencers) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย

 

กลยุทธ์ที่สอง สร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับอินฟลูเอนเซอร์ โดยมีทั้งการลงนามสัญญาแบบตลอดชีพเพื่อสร้างความมั่นคงและความต่อเนื่องในการสื่อสารแบรนด์ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การจัดอีเวนต์ การถ่ายทอดสด และการโปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ

 

กลยุทธ์ที่สาม ออกแบบแคมเปญที่เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดยสร้างกิจกรรมและแคมเปญไวรัล เช่น การเต้นตามธีม การแข่งขัน หรือการแจกของรางวัล เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของแฟนคลับและผู้บริโภค รวมถึงกิจกรรมจับคู่ระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับแบรนด์ ในลักษณะของการเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ส่วนตัว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความผูกพัน

 

กลยุทธ์ทั้ง 3 ข้อนี้ จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างเพราะอินฟลูเอนเซอร์จะทำให้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายใหม่ๆ รู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ เพราะการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่น่าเชื่อถือช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีได้ และที่สำคัญ ยังมีผลลัพธ์ทางการตลาดที่วัดผลได้ เช่น การเพิ่มยอดขาย การเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม และการสร้างแฮชแท็กไวรัล เป็นต้น

 

 

การตลาดผ่านโซเชียลและแพลตฟอร์มออนไลน์

 

การตลาดในโซเชียลและแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจ  ทั้งนี้ การทำการตลาดผ่านโซเชียลสามารถทำได้หลากหลายวิธี ดังนี้

 

• การใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น TikTok เหมาะสำหรับการทำคลิปวิดีโอสั้นเพื่อสร้างกระแสไวรัล, WeChat เหมาะสำหรับสร้างชุมชนและเนื้อหาแบบเฉพาะกลุ่ม, Weibo สำหรับเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างและทำกิจกรรมแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ปัจจุบันหรือเหตุการณ์สำคัญ, Douyin (TikTok จีน) โดดเด่นสำหรับการ Live Sales, Little Red Book (Xiaohongshu) สำหรับการรีวิวสินค้าและสร้างเนื้อหาเชิงลึกที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ เป็นต้น

 

• การออกแบบคอนเทนต์ที่ดึงดูดและตอบโจทย์ เช่น การใช้วิดีโอสั้นที่ใช้สำหรับโปรโมตกิจกรรม แคมเปญ หรือการเล่าเรื่องราวของแบรนด์, การถ่ายทอดสด (Livestream) เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ, การรีวิวและการเล่าเรื่องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและผูกแบรนด์เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น

 

• การสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ผ่านกิจกรรมและแฮชแท็กต่างๆ เช่น การใช้แฮชแท็กที่เป็นไวรัลเพื่อสร้างกระแสและเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม, การจัดกิจกรรมชาเลนจ์หรือกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับสินค้าโดยตรง เป็นต้น

 

• การใช้ข้อมูลและ AI ในการวิเคราะห์และกำหนดเป้าหมาย เช่น ติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากแพลตฟอร์ม เพื่อที่จะสามารถเข้าใจความสนใจของผู้บริโภคและนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงจุด, การยิงโฆษณาแบบเจาะจง (Targeted Ads) ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ เป็นต้น 

 

• การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์ เช่น คอนเทนต์แบบไลฟ์สไตล์ Vlog การเดินทาง รีวิวร้านอาหาร และการแสดงการใช้สินค้าในชีวิตจริง, และการสร้างแบรนด์ผ่านเรื่องราว (Storytelling) เช่น การแชร์เรื่องราวการพัฒนาสินค้า การเล่าความสำเร็จของแบรนด์ หรือการมีส่วนร่วมในโครงการเพื่อสังคม เป็นต้น

 

 

ความสำเร็จของ Joy Media

ด้วยการทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่หลากหลาย รวมถึงการทำการตลาดอย่างจริงจังในโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์  Joy Media ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของการดำเนินงานของบริษัทและแคมเปญการตลาด  

 

ผลลัพธ์โดยรวมของบริษัทปรากฏให้เห็นผ่านการเติบโตของรายได้ กล่าวคือ Joy Media มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปี พ.ศ. 2566-2567 จากการใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านแพลตฟอร์ม TikTok และ WeChat Video Channels ซึ่งแคมเปญการตลาด “618 Shopping Festival” และ “Double 11” ได้สร้างยอดขายมหาศาล ดังที่ Guangdong Couples ได้ทำยอดขายในแคมเปญ “618” ได้ถึง 13.6 พันล้านหยวน  ทั้งนี้ การจัดแคมเปญที่หลากหลายได้ดึงดูดผู้ติดตามใหม่ๆ หลายล้านคน เช่น Liu Genghong ได้จำนวนยอดผู้ติดตามกว่า 50 ล้านคนภายใน 1 เดือนจากกิจกรรมการออกกำลังกาย และ Guangdong Couples มียอดผู้ติดตามใน Douyin มากกว่า 6.6 ล้านคน เป็นต้น

 

ในด้านความสำเร็จของแคมเปญหลักนั้น การทำแคมเปญผ่าน Livestreaming ต่างได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน เช่น การถ่ายทอดสดของ Guangdong Couples ทำยอดขายได้มากกว่า 7.3 พันล้านหยวนในแคมเปญ “Double 11” ในปี 2566 และ Liu Genghong ได้สร้างปรากฏการณ์ไวรัลจากการเต้นออกกำลังกายที่ดึงดูดผู้ชมถ่ายทอดสดถึง 5.2 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งในส่วนของแคมเปญไวรัลเองก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน เช่น แคมเปญ #刘畊宏的凡尔赛时刻 (Liu Genghong’s Versailles Moments) ได้สร้างยอดการเข้าชมบน TikTok และ Weibo กว่า 2 พันล้านครั้ง เป็นต้น 

 

การจัดกิจกรรมและอีเวนต์สำคัญของ Joy Media ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนคลับและผู้บริโภค เช่น การจัดงาน “No Worries Night 2023” ในสนามกีฬาโอลิมปิกหางโจว มีผู้ชมทั้งในสถานที่จริงและในออนไลน์จำนวนมาก และการเปิดตัวเพลงใหม่เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับ Douyin Music ต่างได้รับการตอบรับจากผู้ชมในวงกว้าง

 

เมื่อพิจารณาถึงผลงานที่ผ่านมาของ Joy Media ผู้เขียนตระหนักขึ้นว่าไม่ง่ายนัก ที่ผู้เสกสรรค์ความสำเร็จ “ตัวจริง” คนหนึ่งของตลาดจีนจะมาถ่ายทอดกลยุทธ์สำคัญให้อย่างเป็นกันเองเช่นนี้ ยิ่งได้ทราบข่าวว่าคุณเฉินเซี่ยวบินตรงจากแดนมังกรถึงไทยเพื่อมาบรรยายครั้งนี้ในเช้าวันเดียวกัน  ยิ่งเกิดความรู้สึกมั่นใจว่าเส้นทางความสำเร็จของชาว CBL นั้นไม่ได้ไกลเท่าระยะน่านฟ้า เพราะชัดเจนว่า เส้นทางนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงผลักดันจริงๆ